วิเคราะห์ปัญหาปืนฝืดของ ราสมุส ฮอยลุนด์ ที่ แมน ยูไนเต็ด

วิเคราะห์ปัญหาปืนฝืดของ ราสมุส ฮอยลุนด์ ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Manchester United) กำลังเผชิญปัญหาแนวรุกที่ไร้ประสิทธิภาพ โดยเฉพาะ ราสมุส ฮอยลุนด์ (Rasmus Hojlund) ที่ไม่สามารถทำประตูได้ติดต่อกันถึง 18 เกม นับตั้งแต่เขาทำสองประตูในเกมพบกับ วิคตอเรีย พัลเซ่น (Viktoria Plzen) ในศึก ยูฟ่า ยูโรปาลีก (UEFA Europa League) เมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา

ปัญหาดังกล่าวทำให้แฟนบอลและผู้เชี่ยวชาญเริ่มตั้งคำถามถึงฟอร์มของกองหน้าชาวเดนมาร์ก และการสนับสนุนจากเพื่อนร่วมทีม รวมถึงแท็คติกของกุนซือ รูเบน อาโมริม (Ruben Amorim) ที่อาจเป็นปัจจัยสำคัญของสถานการณ์นี้

สาเหตุที่ทำให้ ฮอยลุนด์ ขาดประตู

แม้ว่าจะเป็นกองหน้าตัวเป้าของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Manchester United) แต่ ฮอยลุนด์ (Hojlund) กลับมีโอกาสยิงน้อยมากในช่วงหลัง โดยในเกมล่าสุดที่พ่าย ฟูแล่ม (Fulham) ในศึก เอฟเอ คัพ (FA Cup) รอบ 5 เขามีโอกาสยิงเพียงหนึ่งครั้งและพลาดเป้าไป

โจชัว เซิร์กซี (Joshua Zirkzee) อีกหนึ่งกองหน้าของทีม ก็มีโอกาสเพียงหนึ่งครั้งเช่นกัน ขณะที่ดาวรุ่ง ชีโด โอบี (Chido Obi) วัย 17 ปี ที่ถูกส่งลงมาในครึ่งหลัง กลับสามารถสร้างโอกาสยิงถึง 3 ครั้ง และเกือบทำประตูได้

ปัญหาของ ฮอยลุนด์ (Hojlund) ไม่ได้เกิดจากฟอร์มการเล่นของเขาเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการขาดการสนับสนุนจากเพื่อนร่วมทีม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตัวเลือกเกมรุกของทีมลดลง อาหมัด ดิยัลโล่ (Amad Diallo) ได้รับบาดเจ็บ, มาร์คัส แรชฟอร์ด (Marcus Rashford) ถูกปล่อยให้ แอสตัน วิลล่า (Aston Villa) ยืมตัว และ แอนโทนี (Antony) ก็ถูกปล่อยให้ เรอัล เบติส (Real Betis) ยืมตัวเช่นกัน

ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ยังมีสถิติที่น่าตกใจว่า แอนโทนี (Antony) ทำประตูให้ เรอัล เบติส (Real Betis) ได้มากกว่าผู้เล่นของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Manchester United) ในช่วงต้นเดือน

รูปแบบการเล่นและแท็คติกที่เป็นปัญหา

รูเบน อาโมริม (Ruben Amorim) ถูกวิจารณ์ว่าใช้แท็คติกที่ไม่เหมาะสมกับศักยภาพของผู้เล่น โดยเฉพาะการเลือกให้ นุสแซร์ มาซราอุย (Noussair Mazraoui) และ ดิโอโก้ ดาโลต์ (Diogo Dalot) ลงเล่นเป็นวิงแบ็ค ซึ่งทำให้ทีมขาดความสร้างสรรค์ในเกมรุก

จนกระทั่ง อเลฮานโดร การ์นาโช่ (Alejandro Garnacho) ถูกเปลี่ยนตัวลงมาในนาทีที่ 53 รูปเกมของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Manchester United) ก็เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน ทีมมีโอกาสยิงตรงกรอบ 6 ครั้งในครึ่งหลัง เทียบกับเพียง 2 ครั้งในครึ่งแรก และ การ์นาโช่ (Garnacho) ยังมีส่วนช่วยให้ บรูโน่ แฟร์นันเดส (Bruno Fernandes) ทำประตูตีเสมอได้

เวย์น รูนีย์ (Wayne Rooney) อดีตกัปตันทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Manchester United) วิเคราะห์ว่า

“ยูไนเต็ด (United) เล่นช้าเกินไป และความเร็วของบอลก็ช้า ทำให้กองหน้าไม่ได้รับโอกาสที่ดีในการทำประตู”

“ฮอยลุนด์ (Hojlund) ต้องพยายามใช้ร่างกายพักบอลและทำทางเองตลอดเวลา เขาไม่ได้รับความช่วยเหลือเพียงพอ และถูกปล่อยให้เล่นอย่างโดดเดี่ยว”

จากปัญหาทั้งหมดนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Manchester United) จำเป็นต้องปรับปรุงแท็คติกเกมรุกโดยด่วน หากต้องการกลับเข้าสู่เส้นทางลุ้นแชมป์ในฤดูกาลนี้

หากคุณกำลังมองหาแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับการเงินและการลงทุน moneyyellow เป็นเว็บไซต์ที่ให้คำแนะนำที่เชื่อถือได้ บทความเกี่ยวกับเศรษฐกิจล่าสุดจาก moneyyellow ช่วยให้คุณเข้าใจแนวโน้มตลาดได้ดียิ่งขึ้น

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *